KIM.WTF

where curiosity meets creation

AI นี่มันช่วยได้เยอะ เอามาใช้ในชีวิตประจำวันกัน

ณ วันที่ผมเขียนเรื่องนี้ AI ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องใหม่ของมนุษย์ในยุคนี้เท่าไหร่ เนื่องจากมันก็มีการใช้งานมาแล้วหลายปี และ มีหลายเจ้าให้เลือกใช้งาน เช่น GPT ของค่าย openai หรือ gemini ของ google

แต่สำหรับผม ที่เพิ่งได้เอา GPT เข้ามาใช้งานจริงๆ ในช่วงเดือน 6/2024 ต้องบอกว่า มันช่วยงานได้เยอะมาก หลังจากที่จับจุดกับมันถูก พอเข้าใจกระบวนการทำงานของมัน ทำให้หลายๆงานในชีวิต มันลดเวลาที่เราต้องใช้ลงไปได้เยอะ

บันทึกนี้จะพยามเน้นไปที่การนำ AI มาใช้งานในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด โดยจะเล่าเรื่องการเอามาใช้งานที่ถือเป็นการแก้ปัญหาสิ่งที่ต้องทำในชีวิตประจำวันไว้สักสามสี่เรื่อง จริงในพาร์ทของงานประจำที่ทำหลังจากเอาข้อมูลจาก ERP ของบริษัท ราวเจ็ดแสน record โยนให้ GPT แล้วมันสามารถ Filter ออกมาได้นั้น ก็แทบไม่มีข้อกังขาเรื่องความฉลาดของมันอีกเลย แต่วันนี้มาจะมายกตัวอย่างเรื่องที่ใช้งานไป

มันแก้ปัญหาเครื่องพิมพ์ได้ด้วย

ตั้งแต่ปลายปี 2023 เป็นต้นมาผมได้เครื่องพิมพ์ 3มิติ เครื่องแรกมาใช้งาน เป็นเครื่อง Creality ENDER 3 V3 KE ซึ่งผมไม่เคยใช้ ไม่เคยเห็นตัวจริง ไม่เคยรู้เลยว่าหลักการการทำงานมันเป็นยังไง อาศัยดู google และ คิดว่าถ้าไม่มีเครื่องจริงมาใช้งาน เราก็จะไม่มีวันเข้าใจมัน

ก็เลยสั่งเครื่องพิมพ์มาเลย พอใช้งานไปสักครึ่งปี ความที่ไม่รู้ จุดที่ขยับได้ของเครื่องมันก็เริ่มมีอาการสั่นคลอน หรือ หลวมบ้าง เป็นไปตามธรรมชาติของการใช้งาน หลังๆ เริ่มส่งผลกับคุณภาพของงานพิมพ์

จนมีเหตุการณ์หนึ่ง ที่สั่งพิมพ์งานไว้ข้ามคืน พอตื่นมาดูก็พบว่าชิ้นงานมีปัญหา พยามนึกสาเหตุ หรือ จะค้นหาต่อใน google ว่างานเป็นแบบนี้มันเกิดจากอะไร ต้องแก้ยังไง ก็นึกไม่ออก จะตั้งคำถามต่อในกลุ่มก็ตั้งไม่ถูก มืดแปดด้านมากๆ ตอนนั้น

แต่เอะใจขึ้นมาได้หรือเราให้ GPT ช่วย ก็เลยถ่ายภาพชิ้นงานแล้วโยนเข้า GPT ซึ่ง GPT ก็วิเคราะห์ปัญหาออกมาได้ โดยปัญหาแรกที่ GPT บอกคือ “layer shited” หรือการเคลื่อนของชิ้นงาน พอเอาชื่อปัญหานี้ไปค้นต่อ ก็พบว่าเกิดมากจากการหลวมของ nozzle adapter และ ปัญหาการหย่อนของสายพาน พอปรับตั้งทั้งสองอย่างใหม่ ก็พบว่าการพิมพ์สามารถกลับมาพิมพ์ได้ที่คุณภาพดีกว่าเดิมมากๆ

เว็บไซต์นี้ก็ใช่

ผมทำเว็บมาหลายปี ถ้าเป็นเว็บส่วนตัว หรือ เว็บขนาดเล็ก ก็ใช้ WordPress มาตลอด ใช้มาตั้งแต่ version 1 กว่า จน version หลังๆ ก็ได้เข้ามาใช้งานบ้างประปราย จนมาได้ใช้จริงจังอีกครั้งใน version ปัจจุบันที่ 6.5

นอกจาก performance และ standard ของ wordpress เองที่ให้มาในปัจจุบันจะเพียงพอกับการทำงานในเว็บนี้ที่ผมต้องการแล้ว ทั้งน่าตา การจัดการเนื้อ การจัดการส่วนของ media

แต่มันจะมีอะไรเล็กๆน้อยที่ผมอยากให้มีเพิ่มเติม เช่น custom post type (CPT) ที่ผมสร้างขึ้นมาจะจัดการกับส่วน Projects โดยให้แยกออกกับส่วนของเรื่องปกติ และ ต้องการใช้ Advance custom feild (ACF) เพื่อเพิ่มค่าบางอย่างของ projects เช่น BOM, REF, PO หรือ Project number

ใน wordpress บางส่วนผมก็จัดการง่ายๆ ด้วย plugin แต่คุณใช้ plugin มาเกินไป ย่อมส่งผลกระทบต่อ perforrmance ของเว็บโดยหลักเลี่ยงไม่ได้ ทางแก้คือคุณทำส่วนต่างใน code เป็นไปตามลำดับขั้นที่ wordpress กำหนด

ในส่วนนี้ผมให้ GPT ช่วยการเรื่องของ CPT และ ACF ให้มา intergrated กับส่วนของโครงสร้างในหน้าเว็บเดิม หรือ การกำหนดให้ search ปกติของ wordpress สามารถค้นหน้าเลย project number ที่อยู่ในส่วนของ ACF โดยให้กำหนดเป็น code ที่ไปใส่ในส่วนของ function ตามมาตรฐานของ wordpress

Google Sheets นี่ใช้อย่างบ่อย

ผมใช้ Google Sheets เยอะมาก ตั้งแต่เริ่มทำงาน และ ใช้มันจัดการกับแทบทุกเรื่องที่ต้องการเก็บข้อมูล หรือ วิเคราะห์อะไรบางอย่าง ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน หรือ แม้กระทั่งเอาไว้คำนวณค่าการเล่นเกมส์ก็ยังมี

พักหลังผมเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอดิเรก มาเป็นลักษณะของทำ Projects โดยตั้งกติกากับตัวเองว่า ต้องทำมันอย่างจริงจัง ทุก Projects ที่ผมทำจะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วนเสมอ อันได้แก่

  1. ข้อมูลของ Projects โดยส่วนนี้จะต้องอธิบายที่มาที่ไปของการเริ่มต้น การพัฒนาโครงการ ผลกระทบ และ ผลลัพธ์ โดยผมเลือกบันทึกส่วนนี้ไว้ในเว็บไซต์นี้ ใน categories project
  2. BOM หากโปรเจคนี่มีการพัฒนา หรือ สร้างขึ้นมาใหม่ จะต้องมีการออก BOM เพื่อควบคุมกระบวนการผลิต ตั้งแต่จำนวนวัสดุ อะไหล่ อุปกรณ์ที่ใช้ จำนวน และ เวลาที่เกี่ยวข้องในการทำ projects
  3. PO หรือส่วนควบคุมค่าใช้จ่ายของ Preojects เพราะทุกโครงการต้องใช้เงิน และ หากไม่มีการบันทึกข้อมูลให้ดี การใช้เงินเกินความจำเป็นในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ จะถือเป็นความเสียหายในระยะยาวได้

เมื่อเงื่อนไขทั้งหมดของผมเป็นไปตามข้างต้น ตอนแรกผมคิดจะพัฒนา web applications เพื่อจัดการในส่วนของข้อ 2 และ ข้อ 3 แต่คิดว่ายังไม่จำเป็น น่าจะใช้ google sheets แทนไปก่อนได้

ผมขึ้นโครงแผ่นงานต่างๆ ไว้คร่าวๆ เช่น แผ่นงานที่เป็นฐานข้อมูลชื่ออะไร แผ่นงานรายละเอียดใบสั่งผลิต แล้วลองให้ GPT เขียนคำสั่งใน googe sheet เพื่อสร้างรหัสอะไหล่ที่ไม่ซ้ำกันโดยอิงจากรหัสโครงการ ผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ

อันที่จริงแล้วใน google sheet projects ที่ผมสร้างนั้น มีหลายส่วนมากๆ ที่ให้ GPT เขียนรูปแบบการใช้งาน หรือ ปรับปรุงสูตรต่างให้มันใช้งานได้ง่ายขึ้น

ภาพประกอบที่เห็นนี่ก็ใช่

แรกๆ ตอนเขียน blog ใหม่ๆ หลายคนก็มีปัญหากับการหาภาพประกอบ blog นี้ กว่าจะหาภาพที่เข้ากันได้ ก็หาอยู่นาน ทำภาพกราฟฟิกเองก็เสียเวลา หรือ พอจะหาภาพจาก internet ก็กลัวเรื่องลิขสิทธิ์อีก

ปัญหานี้ก็หมดไปเยอะ เพราะตอนนี้ผมสามารถสั่งให้ AI สร้างภาพที่ต้องการได้ แค่บอกว่าอยากได้แบบไหน สัดส่วนอะไร เอาไปใช้ที่ไหน รอไม่กี่วินาทีก็ได้ภาพออกมา ถ้ายังไม่ชอบก็แค่ปรับคำสั่งนิดหน่อย หรือ จะบอกว่าลองใหม่อีกครั้ง ก็ทำได้ง่าย

เและ ภาพประกอบทั้งหมดในบันทึกนี้ที่ไม่ใช่ภาพถ่าย ก็ล้วนแต่เป็นภาพที่ผมให้ AI Generate มาให้แทบทั้งสิ้น

สรุป

AI เป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะถ้าคุณใช้มันในเรื่องที่พอจะมีความรู้พื้นฐาน เข้าใจกระบวนการทำงานของสิ่งที่คุณใช้งานอยู่ แล้วใช้ AI เพื่อให้มันจัดการกระบวนการบางอย่าง ที่คุณอาจจะแค่เข้าใจ concept หรือ เป็นกระบวนการที่ต้องทำซ้ำๆ แล้วไม่อยากเสียเวลาไปทำ ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่สามารถลดเวลาการทำงานต่างๆ ของเราลงไปได้อย่างมหาศาล

ดังนั้นแล้วการมีความรู้ หรือ หาความรู้เพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสุดท้ายแล้วคำตอบที่ฉลาด ย่อมมาจากคำถามที่ฉลาดเช่นกัน