korakot
-

มาสร้างเครื่อง Scan Film กัน
ย้อนกลับไปเมื่อสักเกือบ 10 ปี ก่อน ผมชอบถ่ายภาพมาก โดยเฉพาะภาพแนวสารคดี และ Street ประกอบกับการอยู่กับสมาชิกชมรมถ่ายภาพกลุ่มหมีควายมาอย่างยาวนาน ทำให้หลงใหลในการถ่ายภาพขาวดำ แบบถอนตัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ซึ่งในสมัยนั้นราคาฟิล์มไม่แพงมาก ถูกกว่าตอนนี้ราวๆ 5 เท่าเป็นอย่างน้อย การถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มจึงเป็นงานอดิเรกที่โปรดปราน เมื่อถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มแล้ว สิ่งที่ผมหลงใหลไม่แพ้กันคือการได้ล้างฟิล์มเอง การเขย่าขวดน้ำยาล้างฟิล์ม ลุ้นว่าภาพที่ถ่ายมาจะเสียหรือไม่ จะชัดหรือไม่ชัด เป็นสเน่ห์ที่หาอะไรมาแทนได้ยากมากๆ สมัยนั้นเครื่องไม้เครื่องมือก็พอมีครบถ้วน เครื่อง Scanfilm ก็มีพร้อมใช้งาน แต่พอหยุดงานอดิเรกนี้ด้วยความจำเป็นในชีวิตไปหลายสิบปี กลับมาค้นดูอุปกรณ์เก่าๆ อีกครั้งก็พอว่ามันใช้งานไม่ได้กันหมดแล้ว พอจะลองหาเครื่อง Scan film ใหม่ เห็นราคาในปัจจุบันแล้วถึงกับไปต่อไม่ถูก เลยมานั่งคิดๆดู ว่าความสามารถด้านโปรแกรมมิ่ง แมคคานิกส์ และ เครื่องไม้เครื่องมือใน lab ของเราเองก็มีไม่น้อย ถ้าจะทำเครื่อง Scan film เองขึ้นมามันจะไปยากอะไรกัน ด้วยความห้าวหาญ ที่แถวบ้านเรียกว่า “เอิด” ถึงเพียงนี้แล้ว จึงขอบันทึกเส้นทาง การออกแบบเครื่อง Scan film ไว้ใน…
-

ภูเก็ต 2022
อาณิสงค์จากการที่ตาลอยากได้กล้องฟิล์มไปถ่ายทริปภาคเหนือ ที่เป็น road trip เดือนหนึ่งเต็มๆ เริ่มจากกล้องตัวโปรดของตาลอย่าง Minolta CLE จู่ๆ ก็เปิดไม่ติด เลยต้องเอา Nikon F5 ตัวหลักของผมไปใช้แทน แล้วในกล้องดันมีฟิล์มติดอยู่ 1 ม้วน ซึ่งก็จำไม่ได้ว่าเป็นฟิล์มอะไรตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่าเป็น Kodak color plus พอเอาไปถ่าย และ ส่งไปล้างที่มักฟิล์มแฮงเชียงใหม่ ถึงได้รู้ว่าเป็นทริปที่พาเด็กๆ ไปเที่ยวภูเก็ตเมื่อตอนโควิด ช่วงนั้นภูเก็ตเงียบมาก โรงแรมราคาย่อมเยา แต่เรื่องนึงที่ค่อนข้างแปลกใจ ว่าฟิล์มที่เน่าค้างในกล้อง กลับล้างออกมาได้ปกติ ไม่ได้เสียหายหรือคุณภาพแย่ลงเท่าที่คิด ถึงได้รู้ว่าฟิล์มมันก็ไม่ได้เสียหายมากขนาดนั้นหลังจากหมดอายุไป
-

เชียงใหม่ 2025 ม้วนที่ 3
หลังจากที่เราออกจากคาเฟ่เด็ก Let grow ช่วงบ่ายแก่ๆ เราขับรถออกจากร้าน แวะ ทำธุระเอาผ้าไปซักแล้วหาไรกินกันเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไป Check in ที่ novotel nimman ที่ๆ ที่เราจะนอนอีก 2 คืน ระหว่างทางเราผ่านร้านเครื่องเขียน สมุดลานนา ตาลเลยเกิดไอเดียว่า เราน่าจะซื้อเฟรมวาดภาพ และ สี ให้ลูกๆได้ไปวาดภาพเล่นกันใน มช. ช่วงเช้า เพราะช่วงนี้อากาศดีมาก และ ใน มช. เอกก็ร่มรื่น สงบเหมาะอย่างยิ่งให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน เช้าของอีกวันเราออกไปหาอะไรกินมื้อเช้ากันที่จริงใจมาร์เก็ต อากาศดี อาหารราคาไม่แพง โดยเฉพาะเทียบกับภาคใต้ที่เราอาศัยอยู่ อีกทั้งมีงานศิลปะน่ารักๆ เต็มไปหมดในตลาด ช่วงเกือบเที่ยงเราขับรถต่อไปที่ มช. หาที่นั่งกลางแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ไกลจากร้านกาแฟเล็กๆ ร้านหนึ่ง เป็นทำเลให้เด็กวาดภาพ ตาลนัดน้องสาวที่อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ออกมาเจอกัน หลังจากเราวาดภาพ ปั่นจักรยานเล่นใน มช. กันจนจุใจแล้ว เราก็ไปหามื้อเที่ยงกินกันที่ร้านเฮือนสุเทพ และ ออกไปเที่ยวเล่นกันต่อที่ตลาดข้างวัด เป็นเชียงใหม่แบบเรื่อยๆ ที่ไม่มีแผนอะไรมากมายนัก…
-

เชียงใหม่ 2025 ม้วนที่ 2
หลังจากลงจากดอยอินทนนท์แล้ว เราก็มีเวลาอยู่เมืองเชียงใหม่ประมาณ สองสามวันก่อนจะเดินทางต่อไปยังภาคอิสาน ไปเยี่ยมคุณยาย และ แม่ของตาลที่เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เป็นแผนที่เราวางไว้หลวมๆ ก่อนจะเข้ากรุงเทพ เพื่อมางานแต่งเพื่อสนิทของตาล ในวันที่ 29/11 เชียงใหม่ช่วงที่เราเดินทางลงมาตรงกับงานรับน้องขึ้นดอย มช. พอดี จึงได้พาเด็กๆ เข้าไปดูขบวน อาจจะไปช้าสักหน่อย เพราะเราไปทันแค่สองคณะสุดท้าย คือ สถาปัตย์ และ วิจิตรศิลป์ ดูขบวนแห่ได้ไม่นาน เราก็กลับเข้าโรงแรมเพราะต้อง Check out และ แยกกับคณะของบ้านดินในวันนี้ ครอบครัวเราแยกกันพาเด็กๆ ออกไปคาเฟ่เด็กเล็กๆ ในเชียงใหม่ชื่อ Let grow บรรยากาศร่มรืนมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา และ อากาศช่วงที่ไปก็ไม่หนาว และ ไม่ร้อนจนเกินไป เราใช้เวลาอยู่ที่คาเฟ่นี้กว่าค่อนวัน โดยที่แถบจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ จบม้วนที่ 2 และ เป็นม้วนแรกที่ได้ลองฟิล์มของมักฟิล์มแฮง บ้าน 42 พัทลุง ธันวา 2025
-

เชียงใหม่ 2025 ม้วนที่ 1
ได้กลับมาเที่ยวเชียงใหม่อีกครั้งในรอบ 10 ปี เป็นครั้งแรกที่ได้พาเด็กๆ มาเที่ยวภาคเหนือด้วยกัน ทริปนี้ตาลกับเด็กๆ เดินจากพัทลุงตั้งแต่วันที่ 4/11/2025 แล้วค่อยๆ เลาะขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อน โดยมีคณะจากบ้านดินฯ เดินทางไปด้วยกันหลายครอบครัว ผมบินตามจากหาดใหญ่ไปลงดอนเมืองคืนวันที่ 19 ไฟลท์สุดท้ายของ AirAsia จากหาดใหญ่ แล้วไปนอนรอขึ้นเครื่องเที่ยวแรกของนกแอร์จากดอนเมืองไปต่อเชียงใหม่ ถึงเชียงใหม่เช้าตรู่ของวันที่ 20 เราเดินทางต่อไปดอยอินทนนท์ พักค้างคืน คืนหนึ่งที่บ้านพักพักของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนทร์ บ้านหลังที่พักชื่อว่าบ้านญี่ปุ่น ตอนที่ไปถึงอากาศไม่หนาวจนเกินไป อยู่ราวๆ 14 องศา ก่อนมารับผมที่สนามบิน ตาลลงมาจากสะเมิง มาจัดการธุระต่างๆในเมือง และนอนคืนนึงในเชียงใหม่ ได้เอาฟิล์มที่ติดกล้องมาไปร้านที่ล้างมักฟิล์มแฮง (เป็นร้านที่ดีมากๆ น้องจากราคาที่น่ารักแล้ว ฟิล์มมักฟิล์มแฮง V3 ก็เป็นฟิล์มที่ดีมากๆ อีกตัว) จึงทำให้เพิ่งรู้ว่าฟิล์มติดกล้องมา คือฟิล์มที่ไปเที่ยวภูเก็ตกันเมื่อ 3 ปีที่แล้วสมัยโควิดยังระบาด ตอนนั้นน้องมะลิน่าจะประมาณขวบนิดๆ และเจ้ม่วงน่าจะราว 4 ขวบ ใกล้เคียงกับมะลิในตอนนี้ ส่วนฟิล์มอีกม้วนที่ถ่ายมา ก็เป็นฟิล์มที่ถ่ายระหว่างทางตั้งแต่ลพบุรี ไล่มาจนถึงภาคเหนือ ผมคิดว่าจะไม่เล่ายาวมาก เพราะจะเล่าไปให้ตรงกับเนื้อหาในฟิล์มให้มากที่สุด บ้าน…
-

Blog อีกครั้งในวัยสามสิบ
ปลายปี 2025 กับอายุ 34 และ โลกที่ AI กำลังเป็นส่วนที่ก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลง หลายๆสิ่ง หลายๆอย่างในเกือบทุกอุตสาหกรรมของมนุษย์ ผมกลับมาเขียน Blog อีกครั้ง เพื่อหาพื้นที่ในการได้ทบทวนสิ่งต่างๆ กับตัวเอง Blog เป็นสิ่งหนึ่งที่ผูกพันธ์กับผมมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปตั้งแต่โลกยังไม่มี Social Media เมื่อราวปี 2006-2007 ยุคนั้นอินเตอร์เน็ตเป็นยุคของชุมชน ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่จะใช้งานกันอยู่ในเว็บบอร์ด ตามเรื่องราวที่ตนเองให้ความสนใจ ซึ่งในไทยก็มีกระจายตัวกันไปหลายเว็บ ซึ่งหลายเว็บในตอนนั้นปัจจุบันก็มีทั้งทีหายไป และ ยังคงอยู่ ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น อาจจะเป็นความบังเอิญบางอย่างที่ผมเป็นคนเล่นเกมส์ไม่ได้ ด้วยปัญหาสายตา พอมีคอมพิวเตอร์เครื่องแรกสิ่งที่พอจะทำได้บ้างคือการหัดเขียนโปรแกรม และ เขียนเว็บด้วยตัวเองแบบงูๆ ปลาๆ ยุคนั้นเป็นยุคที่หลายคนเริ่มแสวงหาพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองบนอินเตอร์เน็ต เป็น homepage เล็กๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของแต่ละคน จึงเป็นยุคที่เป็นการถือกำเนิดของ web blog ในตอนนั้นมีหลายเจ้าที่ให้เราสามารถเข้าไปเขียนเรื่องราวของตัวเองได้เลย โดยที่ไม่ต้องสร้างเว็บของตัวเองขึ้นมา ถือเป็น Social Media แบบ level 1 ก็ว่าได้ แต่ตัวผมเองที่พอจะทำเว็บได้ ก็เลยสร้างเว็บ…